“ศาลาร่มไม้ (The Garden of Wisdom)” คือ กลุ่มนักวิชาการ นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจด้านการพัฒนา ที่มารวมตัวกันเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 เพื่ออาสาสมัครทำงานวิชาการเพื่อสังคม ซึ่งในเบื้องต้นเกิดจากการรวมกลุ่มของนักวิชาการกลุ่มเล็กๆ จากหลากหลายคณะของมหาวิทยาลัยนเรศวร อาทิ คณะสังคมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และคณะเกษตรศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่...งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อทำงานวิจัย ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ และเพื่อวิเคราะห์วิพากษ์ปัญหาสังคมและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 จึงเริ่มมีกลุ่มนิสิตระดับปริญญาตรีและนิสิตบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก ซึ่งต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนามาตรฐานทางวิชาการ มีความสนใจในกิจกรรมของกลุ่มนักวิชาการศาลาร่มไม้ และต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในเวทีสาธารณะซึ่งรู้จักกันในนามของ “ชุมชนปฏิบัติการด้านการเรียนรู้ (The Community of Practice/ COP) ซึ่งในช่วงเวลานี้ นับเป็นช่วงปีแรกของการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยนเรศวร ดังนั้น นอกจากประเด็นสาธารณะทั่วไปแล้ว ชมรมศาลาร่มไม้ ได้เริ่มเปิดโอกาสให้นิสิตเข้ามานำเสนอแนวคิดวิจัยและความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ ในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวนนิสิตที่เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนปฏิบัติการด้านการเรียนรู้จึงมีจำนวนมาก จนบางครั้ง มีปัญหาเรื่องสถานที่คับแคบและไม่พอเพียง ในปี พ.ศ. 2550 กลุ่มนักวิชาการศาลาร่มไม้ ได้เริ่มกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์เต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ 1) เพื่อสร้างชุมชนนักวิชาการ (Academic Community) ในเวทีสาธารณะ โดยไม่หวังผลประโยชน์หรือผลกำไรส่วนบุคคล 2) เพื่อสร้างเครือข่ายกัลยาณมิตรทางปัญญา และ 3) เพื่อสร้างเสริมมาตรฐานทางวิชาการของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา โดยในระยะแรก เป็นเพียงการพูดคุยกันในมิติต่างๆทางด้านการพัฒนาตามช่วงเวลาที่สะดวก แต่ต่อมาเมื่อกลุ่มนิสิตปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก จากหลากหลายคณะของมหาวิทยาลัยนเรศวร มีความสนใจและขอเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กิจกรรมของกลุ่มนักวิชาการศาลาร่วมไม้จึงเกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยการพบกันแต่ละครั้ง จะใช้บรรยากาศที่เป็นกันเอง เรียบง่าย ประหยัด เป็นการพูดคุยกันตามธรรมชาติ และมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ไปตามความต้องการและความสนใจของผู้เข้าร่วมเรียนรู้ ในปี พ.ศ. 2554 นี้ กิจกรรมชุมชนปฏิบัติการด้านการเรียนรู้ (COP) ของกลุ่มนักวิชาการศาลาร่มไม้ จะครบรอบ 8 ปี และผลของการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา นับว่าเป็นที่น่าภูมิใจ กล่าวคือ ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์มามากกว่า 60 ครั้ง โดยกิจกรรมหลักๆได้แก่ การนำเสนอและแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านการพัฒนาในมิติต่างๆ อาทิ ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านความมั่นคง ด้านการเมืองการปกครอง ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการวางแผนและนโยบายสังคม รองลงมาได้แก่ กิจกรรมที่เกี่ยวกับการบรรยายทางวิชาการของนักวิชาการอาสาสมัคร เพื่อเป็นวิทยาทานให้แก่นิสิต นักศึกษาและผู้สนใจ ในลักษณะของโครงการพึ่งตนเอง นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมทัศนะศึกษาและการทำสาธารณประโยชน์ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การสร้างส้วม การทาสีโรงเรียน กิจกรรมวันเด็ก การบริจาคหนังสือให้แก่ห้องสมุดของโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล อาทิ โรงเรียนน้ำพร้า ตำบลน้ำพร้า อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ (2548) โครงการคาราวานหนังสือ เพื่อบรรยายทางวิชาการ ตลอดจนมอบหนังสือและตำราวิชาการให้แก่ห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์สังคม มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว (2550-2552) และโครงการผ้าป่าทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวที่ขัดสน ซึ่งจะดำเนินการในช่วงเดือนมกราคม 2554 นี้ เป็นต้น ผลของการถอดบทเรียนที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าความสำเร็จและความยั่งยืนของกิจกรรมของกลุ่มนักวิชาการ “ศาลาร่มไม้” เกิดขึ้นจากปัจจัยสำคัญ 5 ประการ ประการแรกคือ กิจกรรมที่จัดขึ้นทุกครั้ง ล้วนเกิดขึ้นจากความสนใจและความต้องการของผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประการที่สอง สถานที่จัดกิจกรรมมีความหลากหลาย ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ไว้วางใจ ตามธรรมชาติ เรียบง่าย สะดวกและประหยัด ประการที่สาม เป้าหมายหลักของทุกกิจกรรม ได้แก่ เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมน่าอยู่ สร้างสำนึกสาธารณะให้แก่สมาชิก และปลูกฝังค่านิยมด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านการทำงานพัฒนาสังคมให้แก่สมาชิก ประการที่สี่ ได้แก่ การสร้างชุมชนนักวิทยาศาสตร์สังคม (Social Sciences Community) ที่ประกอบด้วยนักวิชาการและนิสิตนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมมาตรฐานทางวิชาการ และประการสุดท้าย ได้แก่ ความเข้มแข็งของเครือข่ายทางวิชาการซึ่งเกิดขึ้นจากการเป็นกัลยาณมิตรทางปัญญาของ ผู้รู้ นักปราชญ์ในท้องถิ่น และนักวิชาการจากหลากหลายวิชาชีพที่เข้าร่วมใน “ชุมชนปฏิบัติการด้านการเรียนรู้ (Community of Practice/ COP)” ผ่านการติดต่อประสานงานด้วยระบบสื่อสารสาธารณะทั้งทาง Internet และโทรศัพท์ มีหลายคนที่รู้จักคุ้นเคยกัน ตั้งคำถามกับการที่ดิฉันเข้าร่วมกิจกรรมของศาลาร่วมไม้ว่า “ทำไปทำไม?” “ทำแล้วได้ประโยชน์อย่างไร?” หรือ “ว่างงานหรือ?” ก็คงต้องถือโอกาสนี้ชี้แจงว่า นักวิชาการที่เข้าร่วมกิจกรรมของศาลาร่มไม้ทุกท่าน ไม่มีใครเลยที่ว่างงาน แต่ทุกคนรักที่จะทำงานทุกวัน โดยเฉพาะหากงานที่ทำเป็นวิทยาทาน ด้วยมีความเชื่อคล้ายๆกันว่า ทานปัญญา นั้น เป็นการให้สูงสุดที่ผู้เป็นครูจะให้ได้ เพราะดิฉันเชื่อว่าหากครูทำหน้าที่ “สอน” ต่อเมื่อได้เงินค่าชั่วโมง อาชีพครูก็คงไม่แตกต่างจากโสเภณี ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ดิฉันเชื่อว่าอาชีพโสเภณี เป็นอาชีพที่มีเกียรติมากกว่า พันธกิจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ เผยแพร่บทความ ผลงานวิจัย และแจ้งข่าวสารกิจกรรมด้านการเรียนรู้ การบรรยายวิชาการ การศึกษาดูงาน ผลผลิตของ "ศาลาร่มไม้" |
ABOUT US
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)